
เราก้าวมาถึงยุคสมัยที่ดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ในธนาคารไม่ถึงร้อยละ 1 การหวังสร้างผลตอบแทนก้อนโตด้วยวิธีนี้ จึงไม่ใช่สิ่งที่ดีเหมือนเช่นในอดีตอีกต่อไป การหันมาลงทุนผ่านสินทรัพย์ที่มีหลากหลายในตลาดหลักทรัพย์จึงเป็นอีกทางเลือกที่คุ้มค่า โดยเฉพาะกับคนยุคใหม่ที่สนใจเรื่องการออม การลงทุน หวังสร้างอิสรภาพทางการเงินตั้งแต่อายุยังน้อยกันมากขึ้น แต่สำหรับมือใหม่ที่ยังไม่เข้าใจพฤติกรรมในตลาดมากพอ ก็อาจจะเสี่ยงกับการตกหลุมพลาง กลายเป็นแมงเม่าบินเข้ากองไฟ เจ็บตัว เจ็บใจ ทำให้ไม่กล้าลงทุนในสินทรัพย์เหล่านี้ไปได้ ดังนั้น ก่อนที่จะลงทุน หรือเพิ่งเริ่มลงทุน ควรที่จะศึกษาให้ดีก่อนว่า มีความเสี่ยงอะไรที่ต้องระวังกันบ้าง
มาหาคำตอบหากไม่อยากเป็นแมงเม่าไปด้วยกันเลย
1. ลงทุนตามกระแส ไม่แคร์โครงสร้างพื้นฐานดีไม่ดี
หลายครั้งที่ นักลงทุน โดยเฉพาะหน้าใหม่ ตัดสินใจซื้อหุ้น หรือกองทุนรวม เพียงเพราะมีเพื่อน หรือกูรูแนะนำว่ามันดี มีโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนสูงกว่าตัวอื่น ๆ ซึ่งบางครั้งก็อาจจะดีจริง แต่ส่วนใหญ่แล้วจะพบว่ามันสวนทางกับสิ่งที่คิด จนทำให้นักลงทุนสูญเงินไป พร้อมกับฝากบาดแผลเอาไว้อย่างเจ็บแสบ ทางออกที่ดี ก็คือ การเชื่อตัวเอง เน้นศึกษาค้นคว้าหาข้อมูล ตัดสินใจจากพื้นฐานสินทรัพย์ที่ดี มากกว่าเชื่อคนอื่น
2. เก็งกำไร ซื้อมาขายไป แบบไม่ระวัง
การเปลี่ยนไป เปลี่ยนมา ซื้อมาขายไป เป็นอีกหนึ่งหลุมพลาง ที่หลาย ๆ คนอาจจะกำลังประสบพบเจอ โดยหวังว่าการลงทุนแบบเก็งกำไร จะให้ผลตอบแทนได้รวดเร็ว และมากกว่า แต่กลับไม่ได้คิดทบทวนว่า ยิ่งตัดสินใจว่องไวมากเท่าไหร่ ความเสี่ยงที่จะสูญเสียเงินไป โดยไม่ทันตั้งตัว ก็ยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น วิธีที่ดีกว่าก็คือ หากไม่มีความชำนาญในการจับทิศทางตลาด ที่มีความผันผวน ไม่แน่นอน ก็ควรเน้นลงทุนระยะยาว หรือทยอยเข้าซื้อแบบถัวเฉลี่ย หรือ DCA จะปลอดภัย เสี่ยงน้อยกว่า
3. เสี่ยงดวง หาสินทรัพย์ที่ผลตอบแทนสูงไปเรื่อย ๆ
คงมีนักลงทุนอีกจำนวนไม่น้อย ที่ใช้นิสัยเสี่ยงดวง คล้าย ๆ นักพนัน พยายามหาสินทรัพย์ชนิดที่ได้ผลตอบแทนสูง ขยับสับเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ จนสุดท้ายกลับกลายเป็นขาดทุน มากกว่าที่จะทำกำไร ซึ่งละเลย หรือลืมไปว่า การที่สินทรัพย์จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นได้ ต้องอาศัยเวลา รวมไปถึงมีตัวหนุนที่ทำให้หุ้น หรือกองทุนชนิดนั้น ๆ มีความต้องการสูงขึ้น ราคาจึงจะเพิ่มขึ้นได้ การศึกษาและทำความเข้าใจ ถึงปัจจัยที่จะทำให้ราคาเปลี่ยนแปลง จะทำให้เลือกสินทรัพย์ได้ดีขึ้น
4. เชื่อข่าวลือ ข่าวลวง ตื่นตูม ไม่มีสติ
ในยุคที่เราสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ได้แบบรวดเร็วตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้นักลงทุนไม่น้อยเสพข่าว และแห่เชื่อตามกระแส ทั้งข่าวลือ ข่าวลวง จนบางครั้งทำให้ตลาดแตกตื่น ตกใจ ทำให้ตัดสินใจซื้อ หรือขายผิดพลาดบ่อยครั้ง การมีสติ ตรวจสอบข่าวสารให้แน่ใจ วิเคราะห์แยกแยก ให้เข้าใจถึง เหตุและผลของสิ่งเหล่านั้น จะทำให้สามารถพิจารณาดำเนินการในด้านการลงทุนได้อย่างรอบคอบมากยิ่งขึ้น
5. ไม่โฟกัสที่เป้าหมาย จนทำให้ไปไม่ถึงฝั่งฝัน
เพราะสินทรัพย์ต่าง ๆ ในตลาดหลักทรัพย์มีความผันผวนเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา นักลงทุนจึงต้องหมั่นตรวจสอบ วิเคราะห์และประเมินผลการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ ทั้งในระยะ 6 เดือน หรือ 1 ปี เพื่อติดตามว่าสิ่งที่ลงทุนไปนั้นยังสามารถตอบโจทย์ต่อเป้าหมายที่ตั้งใจไว้หรือไม่ และต้องปรับเปลี่ยนตรงไหน เพื่อให้เข้าใกล้เป้าหมายได้รวดเร็วยิ่งขึ้น การมีวินัยในการลงทุนจึงเป็นอีกปัจจัยที่มีความสำคัญไม่น้อย
ระหว่างทางที่จะก้าวไปสู่ความมั่งคั่งทางการเงิน มักจะเต็มไปด้วยหลุมพลาง ที่เป็นกับดัก ทำให้นักลงทุนหลงตกไปได้ การหมั่นเติมความรู้ สร้างความเข้าใจ ในสินทรัพย์ที่ตัวเองลงทุน รวมไปถึงปัจจัยแวดล้อมที่จะทำให้หุ้น หรือกองทุนรวมนั้น มีสถานะเปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่าจะดีขึ้นหรือแย่ลง เพื่อให้สามารถบริหารจัดการแก้ไขสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว ว่องไว ทำให้ยังรักษาเงินต้น และสร้างกำไรทำให้เงินทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตอบโจทย์เป้าหมายทางการเงินที่ตัวเองตั้งใจไว้
อ่านเพิ่มเติม: Mega Trends