
หุ้นของบริษัทหน้าใหม่ที่กำลังจะเข้าตลาด หรือที่เรียกกันติดปากว่า “หุ้น IPO” ซึ่งย่อมาจาก Initial Public Offering มักเนื้อหอม มีนักลงทุนทั้งสถาบัน และนักลงทุนรายย่อยรอซื้อ และหมดภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว โดยการลงทุนในหุ้นลักษณะนี้ มีความคุ้มค่าต่อการเสี่ยงแค่ไหน จะทำอย่างไรให้ไม่กลายเป็นแมงเม่าบินเข้ากองไฟ ตกหลุมพลางของรายใหญ่การเทรดหุ้น IPO ควรมีการศึกษาข้อมูลอย่างจริงจัง ละเอียดถี่ถ้วน เป็นการบ้านชิ้นสำคัญที่ผู้ลงทุนไม่ว่าจะหน้าเก่า หรือหน้าใหม่ ต้องใส่ใจ เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะสูญเงิน หรือได้กำไรไม่เป็นไปตามที่มุ่งหวัง
โดยก่อนตัดสินใจเทรดหุ้น IPO ควรพินิจพิจารณาเรื่องใดบ้าง มาติดตามกันได้เลย
1. ศึกษาข้อมูลหุ้น IPO ที่จะลงทุนอย่างละเอียดรอบคอบก่อนเสมอ
แน่นอนว่ารู้เขารู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง ยังคงเป็นสำนวนที่ใช้ได้ดีอยู่เสมอ ก่อนการตัดสินใจร่วมลงทุนกับใคร เราควรเข้าใจก่อนว่าธุรกิจที่เราจะไปลงทุนด้วย เป็นธุรกิจประเภทใด โดยควรเจาะลึกไปถึงเบื้องหลังของธุรกิจ ทั้งที่มาของรายได้ อัตราส่วนของรายได้จากสินค้าและบริการแต่ละประเภท ส่วนแบ่งทางการตลาดในกลุ่มธุรกิจเดียวกัน ผลกำไรในหลายปีที่ผ่านมา รวมถึงการคาดการณ์ไปถึงในอนาคต ข้อมูลเหล่านี้ จะเป็นพื้นฐานที่จะช่วยในการพิจารณาตัดสินใจลงทุนได้ดียิ่งขึ้น
2. วิเคราะห์ทิศทางโอกาส และความเสี่ยง เพื่อเพิ่มความมั่นใจ
ทุกธุรกิจย่อมมีทั้งโอกาส และความเสี่ยงที่แตกต่างกันไป แม้จะว่าอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกันก็ตาม โอกาสของธุรกิจมาจากปัจจัยต่างๆ ทั้งสภาพคล่องทางการเงินของธุรกิจ การมีสินค้าและบริการ แบรนด์ที่น่าเชื่อถือ ได้รับการยอมรับจากผู้บริโภค รวมไปถึงมีอำนาจต่อรองทั้งต่อผู้ซื้อและผู้ขายวัตถุดิบ การครองสัดส่วนตลาดในอุตสาหกรรมเดียวกันสูง ความได้เปรียบเหล่านี้ถือเป็นแต้มต่อที่ทำให้ธุรกิจที่กำลังจะขายหุ้น IPO มีโอกาสที่จะเติบโตได้ดี แต่ก็ควรระมัดระวังความเสี่ยงต่างๆ ที่จะมากระทบธุรกิจได้ด้วย
3. เจาะลึกเป้าหมายของธุรกิจที่จะนำเงินไปลงทุน
การระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งสามารถโกยเงินทุนได้จำนวนมหาศาล การทราบที่มาที่ไปของเงินที่จะนำไปใช้ในธุรกิจจึงเป็นเรื่องข้อมูลสำคัญที่ผู้ลงทุนควรใส่ใจ เพื่อพิจารณาถึงเป้าหมายวัตถุประสงค์ในการนำเงินไปใช้ เป็นไปเพื่อสร้างการเติบโตให้กับบริษัทหรือไม่ หรือใช้ไปเพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงิน หรือจะเป็นการนำไปชำระหนี้คงค้าง เพื่อฟื้นฟูกิจการ ความเข้าใจเหล่านี้จะทำให้นักลงทุนจับทิศทางได้ง่ายยิ่งขึ้น
4. รู้จักเปรียบเทียบข้อมูลอัตราส่วนทางการเงิน
อัตราส่วนทางการเงิน แม้ว่าสำหรับมือใหม่อาจจะค่อนข้างเข้าใจได้ยาก แต่ก็ควรศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นการเปรียบเทียบ อัตราราคาหุ้นต่อกำไรต่อหุ้น หรือที่เรียกว่า P/E ราคาหุ้นต่อมูลค่าทางบัญชี หรือ P/BV และอัตราการจ่ายปันผลแก่ผู้ถือหุ้น การอ่านข้อมูลเหล่านี้ได้เข้าใจ จะสามารถนำมาใช้กับการเปรียบเทียบหุ้น IPO กับหุ้นที่ประกอบกิจการและจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อยู่แล้วได้
5. ติดตามข่าวสาร อ่านบทวิเคราะห์จากหลากหลายแหล่ง
ส่วนสุดท้ายที่ขาดไม่ได้ คือการศึกษาบทวิเคราะห์การลงทุน จากนักวิเคราะห์การลงทุน หรือสถาบันที่มีความน่าเชื่อถือ โดยข้อมูลที่ได้รับจะมีทั้งในส่วนที่เป็นข้อมูลข้อเท็จจริงของบริษัทที่จะเปิดขายหุ้น IPO และบทวิเคราะห์ซึ่งเป็นความคิดเห็นเชิงเปรียบเทียบของนักวิเคราะห์การลงทุน ซึ่งทำให้ได้ติดตามมุมมองด้านต่าง ๆ หลากหลาย เพื่อนำมาประกอบการตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพได้
การลงทุนในหุ้นหน้าใหม่ หรือ IPO แม้ว่าจะมีความน่าสนใจ หากเป็นบริษัทที่มีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ แต่ก็พ่วงมากับความเสี่ยงที่จะเกิดเหตุการณ์ซึ่งไม่คาดคิด มากระทบกับธุรกิจนั้น ๆ ได้ ก่อนตัดสินใจทุ่มเทเงินลงทุน ผู้ลงทุนมือสมัครเล่นจึงควรมองข้อมูลให้รอบด้าน ศึกษาข้อมูลอย่างจริงจัง ไม่ฟังหรือเชื่อข้อมูลจากแหล่งใดแหล่งหนึ่งเป็นพิเศษ ทั้งนี้เพื่อรักษาผลประโยชน์ของตัวเองไว้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
อ่านเพิ่มเติม: 4 เทคนิคสุดเจ๋ง จัดพอร์ตกองทุนรวมให้โดนใจ พิชิตกำไรก้อนโต