ชู 4 เคล็ด(ไม่)ลับ บริหารพอร์ตการลงทุนแบบมืออาชีพ ที่ใคร ๆ ก็ทำได้

by kanlongthun
บริหารพอร์ตการลงทุน

เพราะทุกการลงทุนมีความเสี่ยง โดยเฉพาะการลงทุนในหุ้น หรือกองทุน ซึ่งตลาดมีความผันผวนขึ้นลงเปลี่ยนไปมาอย่างต่อเนื่อง สิ่งที่จะช่วยป้องกันความเสี่ยงที่จะขาดทุนได้ นั่นก็คือ การบริหารพอร์ตการลงทุนที่สมดุล และตอบโจทย์ในการสร้างกำไร สำหรับมือใหม่อาจจะฟังแล้วงง ๆ ว่า คืออะไร พอร์ต ถือเป็นศัพท์ที่เรียกกันแบบย่อ ๆ ถึงการบริหารจัดการสินทรัพย์ที่ลงทุน ตั้งแต่ 2 ชนิดขึ้นไป โดยจะเน้นลงทุนให้เกิดความหลากหลาย เพื่อกระจายและช่วยลดความเสี่ยง ซึ่งหากเป็นมือใหม่จะต้องทำยังไงบ้างเพื่อเปลี่ยนไปเป็นนักลงทุนมืออาชีพ ที่บริหารจัดการพอร์ตการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

มาติดตามบริหารพอร์ตการลงทุน และนำไปปรับใช้กันได้เลย 

1. วางแผนสร้างไบเบิลการลงทุนของตัวเองให้ได้

ทุกครั้งที่ตัดสินใจลงทุนอะไร สิ่งสำคัญสำหรับการเริ่มต้นก็คือ การวางแผนที่ดี โดยควรพิจารณาอย่างรอบคอบในปัจจัยต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายของการลงทุน ระดับความเสี่ยงที่ตัวเองยอมรับได้ หากเกิดการขาดทุน ผลตอบแทนที่คาดหวัง รวมไปถึงเงื่อนไขอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการลงทุน การสร้างไบเบิลการลงทุนของตัวเอง จะทำให้สามารถกำหนดทิศทางการลงได้อย่างชัดเจน  

2. หาตัวเลือกการลงทุนที่คุ้มค่า และเหมาะสมกับเป้าหมาย ไลฟ์สไตล์ของตัวเอง

การลงทุนในหลักทรัพย์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นหุ้น กองทุนรวม ทองคำ หรืออื่น ๆ ก่อนที่จะตัดสินใจลงทุน การสำรวจ เปรียบเทียบ เพื่อหาทางเลือกที่ตรงใจ และเหมาะสมสอดคล้องต่อเป้าหมาย เป็นสิ่งที่ต้องใช้เวลาในการศึกษาเรียนรู้ ทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง เพราะไม่ควรลงทุนสิ่งใด ตามกระแสตลาด แต่ควรเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่ตัวเองมีความเข้าใจ และเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่ผ่านมา รวมถึงคาดการณ์แล้วว่าในอนาคตจะสร้างผลตอบแทนได้ตามที่มุ่งหวัง และอยู่ในระดับความเสี่ยงที่ไม่สูงจนเกินไป 

3. จัดสรรเงินลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ บริหารพอร์ตการลงทุนให้ลงตัว

การลงทุนด้วยเงินเย็น หรือเงินที่ไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อจะนำมาใช้ประโยชน์ในระยะเวลาอันใกล้ เป็นสิ่งที่เหมาะสมที่สุด เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะทำให้สูญเสียเงินต้น และส่งผลต่อสภาพคล่องทางการเงิน โดยควรจัดสรรเงินลงทุนไปในสินทรัพย์ประเภทต่าง ๆ ให้เกิดความหลากหลาย ทั้งประเภทสินทรัพย์ และประเทศที่ลงทุน รวมไปถึงช่วงเวลาที่เหมาะสม แต่ไม่ควรกระจายมากจนเกินไป จนทำให้ยากต่อการบริหารจัดการ และกลับทำให้ความเสี่ยงเพิ่มสูงขึ้น 

4. ติดตามประเมิน และปรับพอร์ตการลงทุนเมื่อถึงเวลา

เมื่อลงทุนผ่านไประยะหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็น 6 เดือน หรือ 1 ปี ควรมีการติดตาม และประเมินผลสินทรัพย์ที่ลงทุนไปว่าสร้างกำไรได้สอดคล้องต่อเป้าหมายหรือไม่ มีสินทรัพย์ใดที่ความเสี่ยงเพิ่มสูงขึ้นบ้าง จะได้ทำการปรับพอร์ต บริหารเงินทุนที่ลงไปให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม อาจจะขายออกบางส่วน หรือโยกไปลงทุนในสินทรัพย์อื่น ๆ เพิ่มเติม ที่ได้ผลตอบแทนที่สูงขึ้น 

แม้ว่าการลงทุนจะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างมีความยุ่งยาก ซับซ้อน และต้องใช้เวลาในการศึกษาเรียนรู้ ทำความเข้าใจ แต่หากดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพ ก็จะเกิดผลลัพธ์สร้างกำไรได้อย่างน่าพอใจ ซึ่งก็ถือว่าคุ้มค่าต่อการลงทุน การบริหารพอร์ต การลงทุนอย่างมืออาชีพ จึงเป็นสิ่งที่นักลงทุนควรเรียนรู้ และพัฒนา เก็บเกี่ยวประสบการณ์ พร้อมนำมาปรับใช้เพื่อสร้างเงินให้ทำงาน เปลี่ยนเงินก้อนเล็ก ให้กลายเป็นกำไรก้อนใหญ่ เพื่อพิชิตเป้าหมายสร้างความมั่งคั่งทางเงินรองรับอนาคตข้างหน้า

อ่านเพิ่มเติม: วิธีแก้ปัญหายอดขายตก

เรื่องที่คล้ายกัน

Leave a Comment