
ธุรกิจบ้านเช่า เป็นอีกหนึ่งการลงทุนที่สร้างรายได้ต่อเนื่องให้แก่ผู้ให้เช่า หากที่ตั้งของบ้านอยู่ในทำเลที่ดี อยู่ใกล้แหล่งทำงาน มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เดินทางสะดวก ย่อมเป็นที่ต้องการของผู้กำลังมองหาที่พักอาศัย โดยนอกจากผู้ลงทุนจะพิจารณาถึงศักยภาพทำเลที่ตั้งของบ้านแล้ว ผู้มาเช่าบ้าน ก็เป็นอีกสิ่งที่ต้องคัดเลือกอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้มีความปลอดภัย และคุ้มค่าต่อการปล่อยเช่า ซึ่งก่อนที่จะตัดสินใจให้บุคคลใดเช่าบ้าน ต้องใช้อะไรเป็นเงื่อนไขในการพิจารณาบ้าง
มาติดตามกับ 5 เช็คลิสต์ธุรกิจบ้านเช่าที่นำมาแนะกันดังต่อไปนี้
1. สอบถามถึงระยะเวลาการเช่าบ้าน
เพื่อให้บ้านเช่ามีรายได้ต่อเนื่อง การสอบถามถึงระยะเวลาในการเช่าบ้าน เป็นสิ่งแรกๆ ที่ผู้ลงทุนควรพูดคุยสร้างความชัดเจนแก่ผู้ต้องการเช่าอยู่อาศัย หากผู้สนใจจะเช่าอยู่เพียงแค่ระยะเวลาสั้น ๆ เพียงไม่กี่เดือน ผู้ให้เช่าจำเป็นต้องหาผู้เช่ารายใหม่ไว้สำรอง เพื่อให้เมื่อหมดสัญญาเช่า จะได้ไม่ขาดช่วง มีผู้เช่ารายใหม่มาเช่าต่อได้เลย ทำให้ไม่ขาดรายได้ ทางที่ดีควรมีการกำหนดระยะเวลาการเช่าขั้นต่ำ และมีการเก็บมัดจำล่วงหน้าด้วย
2. พูดคุยถึงการประกอบอาชีพ ความมั่นคงในรายได้
อีกหนึ่งความพร้อมที่ผู้ปล่อยเช่า ควรสอบถามแก่ผู้สนใจเช่า นั้นคือ เรื่องการประกอบอาชีพ และคาดคะเนความมั่นคงของรายได้ เช่น กรณีเป็นมนุษย์เงินเดือน มีรายได้ประจำ ก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะมีเงินจ่ายค่าเช่าอย่างสม่ำเสมอทุกเดือน แต่หากเป็นผู้ที่หาเช้ากินค่ำ ไม่มีรายได้เป็นหลักแหล่ง ก็มีความเสี่ยงที่จะผิดนัดชำระค่าเช่ารายเดือนได้ เมื่อค้างนานเข้าก็อาจจะหนีไป ทำให้กลายเป็นหนี้สูญได้
3. จำนวนผู้ที่มาร่วมพักอาศัย
เนื่องจากบ้านเช่ามีพื้นที่จำกัด การมีผู้มาร่วมอาศัยเป็นจำนวนมาก อาจจะสร้างความรำคาญ วุ่นวายแก่เพื่อนบ้านใกล้เคียง และเสี่ยงที่จะทำให้บ้าน รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เสื่อมเร็วขึ้น ต้องใช้งบประมาณในการปรับปรุงซ่อมแซม ดูแลบำรุงรักษาให้กลับมาอยู่ในสภาพเดิม กรณีที่ผู้เช่ารายเดิมย้ายออก และมีผู้เช่ารายใหม่เข้ามาอยู่อาศัย วิธีแก้ จึงควรวางเงื่อนไขจำกัดจำนวนผู้มาพักอาศัย และมีการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ
4. เหตุผลที่ต้องย้ายที่อยู่ใหม่
ประวัติผู้มาพักอาศัย หรือเช่าบ้าน เป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ปล่อยเช่า ต้องตรวจสอบเป็นอย่างดี โดยเฉพาะการทำสิ่งผิดกฏหมาย แล้วหนีมากบดาน หรือการมีประวัติลักขโมย หนีหนี้ มีพฤติกรรมคุกคาม สร้างความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น การพบปะพูดคุยกับผู้ให้เช่า จึงควรสังเกตุการพูดจา นิสัยใจคอ และพฤติกรรมภายนอก นอกจากนั้นหากเป็นไปได้ควรสืบประวัติเป็นอย่างดีก่อนปล่อยเช่า เพื่อความปลอดภัย
5. ความต้องการในการนำสัตว์มาเลี้ยง
อีกหนึ่งปัจจัยที่อาจจะสร้างความเสียหายต่อบ้าน และสิ่งของต่างๆ ภายในบ้าน คือการปล่อยให้ผู้เช่านำสัตว์มาเลี้ยง ไม่ว่าจะเป็น สุนัข แมว ฯลฯ ซึ่งอาจจะสร้างความรำคาญ รบกวนเพื่อนบ้านใกล้เคียง จนอาจจะเป็นปัญหาบานปลายขึ้นได้ วิธีป้องกันที่ดี ก็คือ การพูดคุยวางเงื่อนไขให้รอบคอบตั้งแต่ต้น หากอนุญาตให้เลี้ยงได้ ก็ต้องจำกัดขอบเขตไม่ให้ไปรบกวนผู้อื่น
ทั้ง 5 ข้อมูลควรพิจารณาที่นำมาแนะนำกันนี้ วิธีการป้องกันที่ดี คือ ผู้ให้เช่าควรจัดทำข้อตกลง ระบุในสัญญาเช่าบ้านอย่างชัดเจน เพื่อให้ผู้เช่าได้ทำความเข้าใจ และเซ็นต์รับทราบ พร้อมทั้งปฏิบัติตามเงื่อนไข รวมไปถึงมีบทลงโทษและค่าปรับที่ชัดเจน เพื่อส่งเสริมให้ผู้เช่าเกิดความระมัดระวัง ไม่กระทำการใดๆ ที่จะทำให้เกิดความเสียหาย และสร้างความรำคาญแก่ผู้อื่น ผู้ปล่อยเช่าจะได้คลายกังวล และได้รับผลกำไรเต็มเม็ดเต็มหน่วยอย่างที่คาดหวัง
อ่านเพิ่มเติม: รวม 5 ข้อผิดพลาดในการลงทุนผ่านกองทุนรวม ที่ควรเรียนรู้และหลีกเลี่ยง