
ในอนาคตที่อัตราเงินเฟ้อจะยิ่งสูงขึ้น ทำให้เงินที่สะสมไว้ในปัจจุบันจะมีมูลค่าลดลง การลงทุนเพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า และมีเงินก้อนโตเพียงพอที่จะเลี้ยงชีพได้ จึงเป็นสิ่งที่ต้องใส่ใจลงทุนตั้งแต่อายุยังน้อย การลงทุนผ่านกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (Retirement Mutual Fund) หรือ RMF เป็นอีกหนึ่งประเภทกองทุนที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการลงทุนระยะยาว เพื่อเป็นเงินสำรองไว้ใช้ยามเกษียณ แต่จะมีการเลือกซื้อกองทุนอย่างไรให้เหมาะสมกับสไตล์การลงทุน ของแต่ละคนจึงจะเหมาะสม
5 เกณฑ์น่ารู้ในการเลือกซื้อกองทุน RMFเหล่านี้
1. พิจารณาเลือกบริษัทจัดการกองทุน และประเภทกองทุน RMF ที่เหมาะสม
ในปัจจุบันมีบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน หรือบลจ. มากมาย ที่ออกผลิตภัณฑ์ทางการเงินประเภทกองทุนรวม RMF มาให้บริการ เพื่อตอบสนองความต้องการของนักลงทุน ก่อนการเลือกซื้อ จึงต้องคัดสรรบลจ.ที่มีผลงานโดดเด่น มีผู้จัดการกองทุนที่มีทั้งความรู้และประสบการณ์ รวมไปถึงศึกษาประเภทกองทุน RMF ที่เหมาะสมกับความต้องการของแต่ละบุคคล เพื่อให้ได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่ากับเงินที่ลงทุนไป
2. ประเมินความเสี่ยงที่ตนเองยอมรับได้
การลงทุนผ่านกองทุนรวมมีระดับความเสี่ยงที่แตกต่างกันไปตามประเภทสินทรัพย์ที่แต่ละบลจ. และผู้จัดการกองทุนเลือกลงทุน รวมไปถึงสัดส่วนที่มีการนำเงินไปลงทุน โดยผู้ที่รับความเสี่ยงได้ต่ำ ควรเลือกกองทุน RMF ที่เน้นลงทุนในสินทรัพย์ที่ค่อนข้างมีความมั่นคง เช่น พันธบัตรรัฐบาล ตราสารหนี้ ตราสารเงิน แต่หากสามารถรับความเสี่ยงได้สูงขึ้น ควรเน้นลงทุนในตราสารทุน หุ้นประเภทต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่า
3. พิจารณาตรวจสอบผลตอบแทนย้อนหลัง
แม้ว่าผลตอบแทนย้อนหลัง จะไม่ได้การันตีถึงผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต แต่ก็สามารถใช้เป็นเครื่องมือในการพิจารณาความรู้ความสามารถของผู้จัดการกองทุน และชื่อเสียงของบลจ. ได้ว่า มีการวางแผน มีฝีมือด้านการบริหารเงินลงทุนมากน้อยแค่ไหน เหมาะสมหรือไม่ที่จะนำเงินเก็บมาร่วมลงทุน โดยควรดูย้อนหลังไปในระยะ 5 – 10 ปี และควรเปรียบเทียบกับกองทุนบลจ.อื่นในประเภทเดียวกันด้วย
4. เปรียบเทียบค่าธรรมเนียมของแต่ละประเภทกองทุน
ในการบริหารกองทุน แต่ละบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน หรือ บลจ. จะมีการเก็บค่าธรรมเนียมในสัดส่วนที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งกองทุนที่มีการเก็บค่าธรรมเนียมสูง จะมีผลทำให้ผลตอบแทนที่ผู้ลงทุนจะได้รับลดน้อยลงไปด้วย การเลือกลงทุนในกองทุน RMF จึงควรศึกษาข้อมูลค่าธรรมเนียมในหนังสือชี้ชวนประกอบกันไปด้วย
5. ตรวจเช็คเงินทุนที่สามารถนำมาใช้ได้ ไม่เดือดร้อนหากจำเป็นต้องใช้
เกณฑ์สุดท้ายที่ควรพิจารณาก่อนเลือกลงทุนกองทุน RMF ก็คือจำนวนเงินที่เราสามารถนำมาลงทุนได้ โดยควรสอดคล้องกับฐานภาษีที่ต้องจ่าย ผู้ลงทุนควรจัดสัดส่วนจำนวนเงินลงทุนให้เหมาะสม ภายใต้เงื่อนไขที่สูงสุดได้ไม่เกิน 15% ของเงินได้ต่อปี และเมื่อนำมารวมกับกองทุนการออมระยะยาวประเภทอื่นๆ แล้วต้องไม่เกิน 500,000 บาท ซึ่งต้องมีการลงทุนต่อเนื่องทุกปี (เว้นได้ไม่เกิน 1 ปี)
จากข้อควรพิจารณาทั้ง 5 เกณฑ์ที่นำมาแนะนำกันนี้ คงช่วยให้ผู้ที่ต้องการลงทุนเพื่อใช้ประโยชน์ในการลดหย่อนภาษี ผ่านการลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ หรือ RMF ได้นำไปใช้ประกอบการตัดสินใจลงทุนได้ดียิ่งขึ้น สิ่งสำคัญที่จะทำให้ทุกการลงทุนมีประสิทธิภาพ และเกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุด คือ การทำความเข้าใจข้อมูลกองทุนที่จะลงทุนเป็นอย่างดี และต้องยอมรับผลที่เกิดขึ้นจากการตัดสินใจนั้นได้
อ่านเพิ่มเติม: 5 วิธี หาแหล่งเงินทุนทำธุรกิจ ได้เงินต่อทุน หนุนธุรกิจให้เติบโต