
การเริ่มต้นธุรกิจในยุคสมัยนี้ สามารถทำได้ง่ายขึ้น แม้มีเพียงตัวคนเดียวก็สามารถทำได้ ในรูปแบบ Solo Preneur หรือการเป็นผู้ประกอบการที่บุกเบิกก่อตั้งธุรกิจ โดยใช้ตัวเองเป็นหลัก ไม่พึ่งพาพนักงานคนอื่น ๆ จนกว่าธุรกิจจะอยู่ตัว สามารถขยับขยายกิจการให้เติบโตขึ้นได้ ด้วยข้อจำกัดด้านเงินลงทุน ทรัพยากรต่าง ๆ การทำธุรกิจแบบ Solo Preneur จึงเป็นรูปแบบธุรกิจที่สานฝันในการสร้างรายได้ โดยอาศัยความถนัด ความเชี่ยวชาญ ความชื่นชอของตัวเอง มาพัฒนาต่อยอดให้เป็นธุรกิจที่ทำเงิน ซึ่งการสานต่อจนก้าวไปสู่ความสำเร็จได้นั้น จำเป็นต้องอาศัยการบริหารจัดการและเทคนิคต่าง ๆ ที่จะช่วยขับเคลื่อนให้ธุรกิจมุ่งไปสู่เป้าหมายได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งควรทำอย่างไรบ้างนั้น
มาค้นหาคำตอบกับSolo Preneur ไปพร้อม ๆ กันเลย
1. วางเป้าหมายธุรกิจ พัฒนาแผนงานการลงมือทำแบบเห็นภาพ และทำได้จริง
ในทุกการดำเนินงานไม่ว่าจะเรื่องใด สิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือการวางเป้าหมาย โดยเฉพาะการทำธุรกิจ จุดที่มุ่งหวังและต้องการไปให้ถึงจะเป็นเข็มทิศในการพัฒนาแผนการเดินทาง การลงมือทำ ซึ่งจะทำให้เห็นภาพชัดเจนว่าควรใช้วิธีการใด ใช้เครื่องมือใดในการเดินทางเพื่อไปให้ถึงจุดหมายได้ในระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งวิธีที่เลือกนำมาใช้ก็ต้องสามารถดำเนินการได้จริง ไม่เป็นเพียงจินตนาการ หรือความเพ้อฝัน ที่เมื่อลงมือทำแล้วกลับไม่เป็นอย่างที่คิด
2. ฝึกฝนสร้างวินัย อดทน ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค
เพราะการทำธุรกิจในรูปแบบ SoloPreneur ที่อาศัยเพียงคน ๆ เดียวในการขับเคลื่อน อาจจะทำให้ต้องเผชิญกับอุปสรรคขวากหนามมากมายระหว่างทาง ซึ่งอาจจะทำให้เกิดความท้อ หมดหวัง ขาดกำลังใจ สิ่งที่จะทำให้ฝ่าฟันลุยต่อไปได้ ก็ต้องอาศัยวินัยในการลงมือทำอย่างมุ่งมั่น ตั้งใจ พยายามหาทางออกให้กับแต่ละปัญหาอย่างไม่ลดละ ไม่ถอดใจ จนกว่าจะก้าวเดินไปสู่เป้าหมายที่วางแผนไว้
3. รู้จุดอ่อน จุดแข็งของตัวเอง บริหารจัดการธุรกิจแบบมืออาชีพ
ผู้ที่ตัดสินใจทำธุรกิจแบบ SoloPreneur จำเป็นต้องวิเคราะห์ตัวเอง เพื่อค้นหาจุดแข็ง และจุดอ่อน สำหรับการพัฒนาสร้างความแตกต่าง ที่สนับสนุนต่อการทำธุรกิจ เพราะการทำธุรกิจด้วยตัวคนเดียว จำเป็นต้องอาศัยทักษะหลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านการขาย การตลาด การเงิน การบริหารจัดการ ซึ่งต้องเรียนรู้ให้รอบด้าน และจัดการในทุกเรื่องอย่างมืออาชีพ
4. ใช้ระบบในการทำงาน เพื่อให้ไม่ต้องผูกงานไว้กับตัว มีอิสระ
แม้ว่าจะทำงานเพียงลำพังคนเดียว แต่ก็ไม่จำเป็นที่ต้องเฝ้าธุรกิจนั้นตลอดเวลา การมองหาเทคโนโลยีสมัยใหม่ เข้ามาใช้ในการบริหารจัดการสร้างธุรกิจ จะทำให้เหนื่อยน้อยลง มีอิสระ ที่จะไปทำสิ่งอื่น ๆ ได้ โดยที่ไม่ทำให้ธุรกิจเกิดปัญหา ปัจจุบันมีซอฟต์แวร์หลากหลายชนิด ที่ได้รับการพัฒนาให้ตอบโจทย์ต่อผู้ที่ทำธุรกิจ ซึ่งเอื้อให้สามารถนำไปใช้งานที่ไหนก็ได้ โดยเฉพาะการขายสินค้าบนแพลตฟอร์มออนไลน์
5. รู้จักบริหารจัดการเวลาให้คุ้มค่าและเกิดประสิทธิภาพต่อธุรกิจ
เวลา เป็นอีกหนึ่งทรัพยากรที่มีความสำคัญต่อการทำธุรกิจ โดยเฉพาะกับผู้ที่เริ่มต้น และสร้างธุรกิจด้วยตัวคนเดียว เวลา 24 ชั่วโมงในแต่ละวันจึงมีคุณค่ามาก โดยควรวางแผนจัดลำดับความสำคัญในสิ่งที่ต้องทำ ผ่านการวางแผนการทำงาน ทำ To Do List ในแต่ละวัน เพื่อป้องกันการลืม และตรวจสอบประสิทธิภาพการใช้เวลาไปกับเรื่องต่าง ๆ ให้ความสำคัญกับสิ่งที่มีความจำเป็น และเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจก่อนเสมอ
การทำธุรกิจแบบ SoloPreneur ก็สามารถประสบความสำเร็จได้ เหมือนกับธุรกิจที่มีหุ้นส่วน หรือพนักงานหลายคน แม้อาจจะต้องใช้ความอดทน ความพยายาม และทักษะในด้านต่าง ๆ ที่หลากหลาย แต่การลงมือทำด้วยตัวเองในทุกเรื่อง ก็จะสร้างประสบการณ์ที่เป็นประโยชน์ที่สามารถนำไปใช้ในการพัฒนาให้ธุรกิจเติบโตอย่างมั่นคง และขยายให้ยิ่งใหญ่ขึ้นได้ โดยที่ไม่ต้องพึ่งพาใครให้ปวดหัว ในช่วงเริ่มต้นกิจการ
อ่านเพิ่มเติม: Pain Point