หน้าฝน กับ 5 ความเสี่ยงทางการเงิน ที่ต้องระมัดระวัง  

by kanlongthun
ความเสี่ยงทางการเงิน

เมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูมรสุม ที่จะมีฝนตกแทบทุกวัน ซึ่งสร้างความลำบากต่อการใช้ชีวิตอยู่ไม่น้อย นอกจากนั้นหากขาดความระมัดระวัง หรือประมาท ก็อาจจะเป็นเหตุให้เกิดความเสี่ยงทางการเงินในรูปแบบต่าง ๆ ที่พร้อมจะดึงเงินในกระเป๋าที่มีอยู่อย่างจำกัด เพื่อนำออกไปใช้จ่ายกับเรื่องต่าง ๆ เงินที่หามาได้อย่างยากลำบาก ก็จะไหลออกไปเหมือนสายน้ำ ที่ยากจะย้อนกลับมาอีก ช่วงหน้าฝน จึงเป็นอีกหนึ่งฤดูที่ต้องมีการเฝ้าระวังทางการเงิน ด้วยการป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น และทำให้จำเป็นต้องเสียเงิน ทั้งมากและน้อยไปได้

มาทำความเข้าใจความเสี่ยงทางการเงิน กันดีกว่าว่ามีอะไรที่ต้องระมัดระวังกันบ้าง 

1. การเจ็บป่วยไม่สบายจากโรคที่มากับฝนและน้ำ 

การโดนละอองฝน หรือตากฝน เพราะอาจจะไม่ได้พกร่ม หรือเสื้อกันฝนไป ก็อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการไม่สบายจากโรคต่าง ๆ ได้ เช่น ป่วยเป็นหวัด คัดจมูก น้ำมูกไหล ไอ จาม ภูมิแพ้ หรือการเดินลุยน้ำ อาจจะเสี่ยงต่อการเกิดโรคน้ำกัดเท้า โรคผิวหนังต่าง ๆ ซึ่งก็ต้องจ่ายเงินไปหาหมอ หรือซื้อยามารับประทานเพื่อบรรเทาอาการ และรักษาให้หาย รวมทั้งเสียเวลา เสียสุขภาพ ในการไม่ได้ไปทำงานด้วย ทางที่ดีควรเตรียมอุปกรณ์ป้องกันฝนติดตัวไปด้วยเสมอ 

2. เกิดอุบัติเหตุจากถนนลื่น ไม่ทันระวัง 

อุบัติเหตุอาจจะเกิดขึ้นได้เสมอ หากไม่มีความระมัดระวัง ประมาท โดยเฉพาะการขับขี่ยานพาหนะ ไม่ว่าจะรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ในช่วงที่ฝนตก ถนนลื่น ทัศนวิสัยในการมองเห็นต่ำ หากใช้ความแร็วสูง ก็อาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุ รถเสียหลัก ไปพุ่งชนสิ่งต่าง ๆ สร้างความเสียหายต่อทรัพย์สิน รวมถึงชีวิตตัวเองและผู้อื่นได้  การใช้รถใช้ถนนช่วงที่ฝนตก จึงต้องใช้ความเร็วที่เหมาะสม และเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น

3. ปัญหาบ้านหลังคารั่ว น้ำซึม หรือน้ำท่วมต้องซ่อมแซม

บ้านเรือนเป็นอีกทรัพย์สินที่จะมีการเสื่อมสภาพไปตามอายุการใช้งาน ซึ่งในช่วงที่มีฝนตกชุก ก็อาจจะทำให้เกิดหลังคารั่ว น้ำซึม หรือหากฝนตกหนักมาก ๆ ก็อาจจะทำให้เกิดน้ำท่วมขัง ที่เสี่ยงจะทำให้ทรัพย์สินต่าง ๆ ภายในบ้านเกิดความเสียหาย ต้องเตรียมเงินเผื่อไว้สำหรับการซ่อมแซม เพื่อให้สามารถกลับมาใช้งานได้ตามปกติ ดังนั้น พอเริ่มเข้าหน้าฝนจึงต้องตรวจสอบการใช้งานของอุปกรณ์ป้องกันต่าง ๆ และซ่อมแซมให้พร้อมใช้งาน 

4. ฝนตก รถติด ต้องใช้รถยนต์ทุกวัน แบกภาระค่าน้ำมันแพง

ในช่วงฤดูฝน ทำให้ต้องใช้รถยนต์เป็นยานพาหนะทุกวัน นอกจากนั้นการขับรถเดินทางในพื้นที่เขตเมือง ซึ่งมีการจราจรหนาแน่น เป็นปกติที่จะมีรถติด ทำให้สิ้นเปลืองเชื้อเพลิงน้ำมันมากขึ้นกว่าเดิม แน่นอนว่าเงินในกระเป๋าก็จะไหลออกไป กับค่าใช้จ่ายเหล่านี้เพิ่มขึ้นไปด้วย ดังนั้น หากจะมีการเดินทางในช่วงหน้าฝนควรมีการวางแผนการเดินทางล่วงหน้า เลือกใช้เส้นทางที่มีรถไม่เยอะมาก หรือขยับเวลาออกไปอีกนิด ให้ปริมารถน้อยลง 

5. รถเสียจากน้ำเข้าเครื่องยนต์ 

การขับรถลุยน้ำในช่วงที่ฝนตกหนัก ๆ บางพื้นที่ถนนอาจจะเป็นที่ลุ่ม ซึ่งทำให้เกิดน้ำขังบนผิวการจราจร โดยหากขับฝ่าน้ำนั้นไป ก็อาจจะเกิดคลื่นน้ำ ทำให้น้ำกระเพื่อมไหลเข้าท่อไอเสีย ส่งผลให้รถดับ หรือเครื่องยนต์ได้รับความเสียหาย จำเป็นต้องมีรถมาลาก หรือติดต่อให้ช่างมาตรวจเช็ค เพื่อซ่อมแซมให้สามารถใช้งานได้ ซึ่งก็ทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นไปอีก ทางที่ดีควรขับรถอย่างระมัดระวัง โดยเฉพาะในพื้นที่ซึ่งมีน้ำขัง 

ท่ามกลางวันฝนพรำ อาจจะทำให้เสียเงินไม่หยุด พอ ๆ กับสายฝนที่ตกลงมา การรู้จักวางแผนล่วงหน้า และเรียนรู้ปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้เกิดเงินในกระเป๋าไหลไปกับสายน้ำ ก็ควรรีบหาทางป้องกัน เพื่อลดปัจจัยที่จะเป็นเหตุให้เกิดความเสียหาย และยังยั้งไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ตามมา เป็นการปกป้องเงินที่หามาได้ เพื่อนำไปใช้ในสิ่งที่มีคุณค่า และเกิดประโยชน์ต่อชีวิตมากกว่า

อ่านเพิ่มเติม: ไอเดียทำธุรกิจ

เรื่องที่คล้ายกัน

Leave a Comment