รวม 5 สุดยอด Marketing Technology ที่นักการตลาดควรรู้ ใช้งานให้เป็นในปี 2022

by kanlongthun
Marketing Technology

การทำธุรกิจในทุกวันนี้ ต้องแข่งขันกับสิ่งต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเวลาที่มีจำกัด แต่ต้องตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้รวดเร็ว ต่อสู้กับพฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปตามสภาวะแวดล้อม รวมไปถึงคู่แข่งที่พัฒนาต่อเนื่อง หากธุรกิจของเราหยุดนิ่งก็เท่ากับแพ้โดยที่ยังไม่ได้สู้ เพื่อให้สามารถทำงานได้รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นในเวลาที่มีอยู่จำกัด การนำเทคโนโลยีทางการตลาดสมัยใหม่เข้ามาปรับใช้ จึงเป็นทางออก ที่เหล่าธุรกิจไม่ว่าจะเป็น SMEs หรือแบรนด์ยักษ์ใหญ่ต้องเรียนรู้ และทำความเข้าใจ เพื่อสามารถนำมาใช้ได้อย่างถูกต้อง และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อองค์กร สำหรับสุดยอด Marketing Technology 5 เครื่องมือที่น่าสนใจมีอะไรกันบ้าง

มาติดตาม Marketing Technology ไปพร้อมกันเลย 

1. เครื่องมือสำหรับการทำงานผ่านโซเชียลมีเดีย 

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าผู้บริโภคยุคนี้ ใช้เวลาอยู่บนโซเชียลมีเดียเพิ่มขึ้น ที่นี่จึงเป็นทั้งแหล่งขาย แหล่งซื้อของคนทั่วโลก ซึ่งแบรนด์สามารถนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้อย่างมหาศาล หากมีการเตรียมความพร้อม มีความเข้าใจในตัวลูกค้าเป้าหมาย พัฒนาช่องทางที่เขาสนใจ และใช้เวลาอยู่กับมัน รวมทั้งสร้างสรรค์คอนเท้นต์ที่ตอบโจทย์ โดยแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่นักการตลาดควรให้ความสนใจ มีทั้ง Facebook Instagram และ ที่กำลังมาแรงก็คือ Tiktok หากเข้าใจ และใช้เป็น แน่นอนว่าลูกค้าย่อมหาได้ไม่ยาก 

2. เครื่องมือสำหรับทำคอนเท้นต์

การดึงดูดความสนใจของลูกค้า ด้วยระยะเวลาที่มีอยู่จำกัด เมื่อเทียบกับคอนเท้นต์บนโลกออนไลน์ที่มีอยู่มากมาย ถือว่าไม่ใช่เรื่องง่าย แต่หากแบรนด์รู้ใจลูกค้า เข้าใจถึงพฤติกรรม ไลฟ์สไตล์ รวมไปถึงความสนใจ ช่องทางการสื่อสารที่เขาเปิดรับ ย่อมผลิตคอนเท้นต์ที่โดนใจได้ไม่ยาก โดยคอนเท้นต์ที่ควรทำ มีทั้งบทความ วิดีโอ รูปภาพ อินโฟกราฟฟิค ฯลฯ โดยเครื่องมือที่นำมาใช้ในการทำคอนเท้นต์ มีทั้ง WordPress สร้างเว็บแบบง่าย ๆ  YouTube ช่องทางเผยแพร่วิดีโอที่ได้รับความสนใจสูงสุด และ Canva  ออกแบบกราฟฟิคได้แบบมือโปร 

3. เครื่องมือสำหรับวิเคราะห์ข้อมูล

ในยุคที่ผู้บริโภคมีความเฉพาะตัวมากขึ้น การเข้าใจข้อมูลเชิงลึก ถึงพฤติกรรมของแต่ละคน โดยอาศัยข้อมูลที่ลูกค้ามอบให้ มาใช้ในการวิเคราะห์ ประเมิน คาดการณ์ความสนใจ ย่อมทำให้ธุรกิจได้เปรียบคู่แข่ง สามารถตอบสนองความต้องการ แก้ปัญหาลูกค้าได้อย่างตรงจุด สร้างความประทับใจ ทำให้มีลูกค้าระยะยาว โดยเครื่องมือที่เหมาะสมจะนำมาใช้ มีทั้ง Google Analytic, Google Data Studio, Power BI ที่ช่วยให้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าได้ง่าย สะดวก รวดเร็วมากขึ้น 

4. เครื่องมือสำหรับการสร้างโฆษณา

การเข้าถึงลูกค้าเป้าหมายให้ได้จำนวนมาก เพื่อสร้างการรับรู้ ขายสินค้าและบริการ เป็นไปได้ยากที่จะพึ่งพาการประชาสัมพันธ์เพียงอย่างเดียว การโฆษณาที่ต้องเสียเงินซื้อ จึงเป็นตัวเลือกที่สำคัญที่จะทำให้เกิดยอดขาย ซึ่งการทำโฆษณาที่มีประสิทธิภาพได้นั้น ต้องอาศัยเครื่องมือที่เป็นประโยชน์มาช่วยทุ่นแรง ประหยัดเวลา ไม่ว่าจะเป็น Google Ads, Facebook Business Manager, Line Ads ที่ช่วยให้การบริหารโฆษณาเพื่อไปให้ถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น 

5. เครื่องมือรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าและทำการตลาดอัตโนมัติ

การหาลูกค้าใหม่ มีต้นทุนที่สูงกว่าการรักษาลูกค้าเก่า ดังนั้น เมื่อมีลูกค้าแล้วจงรักษาเขาไว้ให้นาน ๆ การรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้า เป็นสิ่งที่ทุกธุรกิจ ต้องมีการดำเนินการอย่างเป็นระบบ ผ่านเครื่องมือต่าง ๆ ที่ช่วยอำนวยความสะดวก ไม่ว่าจะเป็น Active Campaign เครื่องมือที่เหมาะจะนำมาใช้กับทำ E – Mail Marketing การส่งข้อความ SMS ,  Hubspot เครื่องมือที่จะช่วยดึงดูดลูกค้าให้มาใช้เว็บไซต์ และซื้อสินค้าเพิ่มขึ้น 

ด้วยปริมาณงานที่มีจำนวนมาก เมื่อเทียบกับจำนวนคนทำงานซึ่งมีน้อยนิด การมีเครื่องมื่อที่ทรงประสิทธิภาพ มาเป็นตัวช่วยคนสำคัญ คงทำให้การดำเนินการแต่ละด้านคืบหน้า และสำเร็จตามเป้าหมายได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งการจะนำเครื่องมือแต่ละตัวมาใช้ ควรเรียนรู้ให้เข้าใจอย่างลึกซึง และทดลองใช้จริงอย่างสม่ำเสมอ เพื่อจะได้เข้าใจถึงการทำงาน และสามารถปรับปรุงให้เหมาะสมกับองค์กรของตนเอง

อ่านเพิ่มเติม: รวม 5 คุณสมบัตินักขายชั้นยอด ที่บริษัทต้องแย่งตัว

เรื่องที่คล้ายกัน

Leave a Comment