
ด้วยสภาพแวดล้อม และเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำ จึงเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญที่ทำให้พฤติกรรมการบริโภค ความสนใจ และการใช้ชีวิตของกลุ่มลูกค้าเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว การหยุดนิ่งอยู่กับที่ ไม่มีการพัฒนาหรือต่อยอด เรียนรู้เพื่ออัพเดทต่อสิ่งใหม่ๆ เหล่านี้ ก็อาจจะเป็นสิ่งที่ทำให้ธุรกิจล้าสมัย และถูกทิ้งไว้ข้างหลังแบบไม่รู้ตัว การนำ Marketing Technology มาปรับใช้เพื่อใช้ให้การทำการตลาด เครื่องมือ Marketing ของธุรกิจมีความสะดวก รวดเร็ว และทันต่อความเปลี่ยนแปลง จึงเป็นสิ่งที่นักการตลาด หรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องควรที่จะอัพเดทอย่างสม่ำเสมอ และมีความเข้าใจ
เพื่อให้สามารถนำเครื่องมือ Marketing มาประยุกต์ใช้งานได้อย่างถูกต้อง และคล่องแคล้ว ซึ่งมีเครื่องมือประเภทใดที่นำมาช่วยให้การทำการตลาดมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นได้บ้าง มาติดตามกันได้เลย
1. เครื่องมือทำการตลาดผ่านโซเชียลมีเดีย
ผู้บริโภคยุคนี้ ใช้เวลาบนโลกออนไลน์ ติดกับหน้าตามือถือ ในทุกช่วงที่พอจะมีเวลาว่าง ดังนั้น การเลือก Marketing Technology ที่เข้ามาช่วยในด้านการทำการตลาดผ่านโซเชียลมีเดีย จึงเป็นอีกหนึ่งความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องเรียนรู้ และฝึกฝนการใช้งานให้เข้าใจกลไก รวมทั้งเสริมประสิทธิภาพช่องทางการสื่อสารของแบรนด์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Line Official Account, Instagram, Tiktok YouTube การเข้าถึง Insight การใช้งานของลูกค้า ถือเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้การทำการตลาดผ่านโซเชียลมีเดีย ทำได้อย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น
2. เครื่องมือบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า
การเปลี่ยนลูกค้าหน้าใหม่ ให้กลายเป็นแฟนพันธ์แท้ของธุรกิจ จำเป็นต้องอาศัยการบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า ซึ่งการมีความเข้าใจในเครื่อง Marketing Technology สามารถเป็นตัวช่วยทำให้งานที่มีมากมาย เกิดความสะดวก คล่องตัวและรวดเร็วมากขึ้น โดยใช้เครื่องมืออย่าง Active Campaign ที่สนับสนุนการทำการตลาดผ่าน E – Mail Marketing หรือการส่ง SMS ผ่านมือถือลูกค้า หรือจะเป็น Hubspot ที่ช่วยส่งเสริมดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาใช้งานผ่านเว็บไซต์
3. เครื่องมือบริหารคอนเท้นต์
เพราะลูกค้ามีโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกันออกไป การสื่อสารเพื่อให้กลุ่มเป้าหมายได้เข้าใจในสิ่งที่สินค้าหรือบริการขององค์กรสามารถตอบโจทย์ และช่วยแก้ปัญหาได้จึงต้องอาศัยแม่เหล็กอย่างคอนเท้นต์ที่มีคุณภาพ เข้ามาเป็นตัวช่วย โดยเครื่องมือ Mar Tech ที่จะสามารถนำมาประยุกต์ใช้เพื่อทำให้เนื้อหาที่สื่อสารมีแรงดึงดูดใจมากขึ้น ก็มีทั้ง Canva ที่จะช่วยเหลือผู้ที่ไม่ได้มีทักษะด้านการออกแบบสามารถทำงานได้ง่ายขึ้น รวมทั้ง WordPress ที่สามารถจัดการหน้าตาเว็บไซต์ การใช้งานต่าง ๆได้อย่างสะดวกสบาย
4. เครื่องมือสร้างและเสริมประสิทธิภาพการทำโฆษณา
ในยุคที่ทุกคนต่างมีช่องทางสื่อสารเป็นของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นบุคคล หรือองค์กร แต่ผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย ไม่สามารถมีเวลามากเพียงพอที่จะติดตามทุกคอนเท้นต์ที่สื่อสารออกมาจากทุกคนได้ การเข้าถึงลูกค้าจึงต้องอาศัยพึ่งพาการทำโฆษณาเพื่อให้สามารถเจาะไปยังกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้ Marketing Technology ที่จะช่วยนักการตลาดได้ ก็มีทั้ง Google Ads, Facebook Business Manager, Line Ad ซึ่งแต่ละแพลตฟอร์มมีระบบหลังบ้านที่ช่วยให้สามารถบริหารโฆษณา และเจาะกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุด แต่จำเป็นต้องนำข้อมูลมาวิเคราะห์และประมวลผล
5. เครื่องมือทำ SEO
แม้ว่าจะมีแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ที่แบรนด์ หรือองค์กรธุรกิจใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แต่ก็ยังมีความจำเป็นต้องมีหน้าบ้าน หรือหน้าร้านออนไลน์เป็นของตัวเอง นั่นคือ เว็บไซต์ ซึ่งระบบ Search Engine Optimization หรือ SEO ที่ช่วยปรับปรุงเว็บไซต์ให้ติดอันดับการค้นหาผ่าน Google ก็ยังมีความสำคัญ ดังนั้น นักการตลาด นักสื่อสารจึงต้องนำ Mar Tech ต่าง ๆ มาช่วยเหลือ อาทิ Google Search Console, Google Page Speed Insights Google My business ซึ่งแต่ละเครื่องมือเหล่านี้ก็จะมาช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้งานของลูกค้า และสามารถสร้างความเข้าใจ เพื่อปรับปรุงเว็บไซต์ให้สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้ดีขึ้น
เพราะความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น กลายเป็นตัวเร่งให้เหล่าคนทำงานด้านการตลาดต้องเพิ่มความเร็วในการรับมือ Marketing Technology ซึ่งมีการออกแบบเครื่องมือที่หลากหลาย ที่สอดรับต่อการใช้งานเพื่อเสริมประสิทธิภาพการทำการตลาด การเข้าใจพฤติกรรม และความคิดของผู้บริโภค ซึ่งช่วยให้ผู้เกี่ยวข้องกับการทำการตลาดสามารถออกแบบ และสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อส่งเสริมประสบการณ์ที่ดี ทำให้ลูกค้าสามารถติดตามข้อมูล สั่งซื้อสินค้า และรับบริการต่าง ๆ ได้อย่างตอบโจทย์ องค์กรก็ได้รับประโยชน์ทั้งจากยอดขาย กำไร และทำให้ธุรกิจเติบโตไปได้
อ่านเพิ่มเติม: เขียน Caption