5 บริษัทส่งสินค้าชั้นนำ ที่พ่อค้าแม่ออนไลน์และสายช้อปควรรู้

by kanlongthun
บริษัทส่งสินค้า

การขายและซื้อสินค้าทุกวันนี้ ไม่ต้องไปถึงหน้าร้านก็ทำได้ง่าย ๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ รวมไปถึงยังได้รับสินค้ารวดเร็วเพียงไม่กี่วัน ผ่านระบบขนส่งของบริษัทส่งสินค้าชั้นนำที่ส่งได้ทั่วประเทศ ซึ่งมีบริษัทให้เลือกหลากหลายกว่าแต่ก่อน พ่อค้าแม่ออนไลน์ช่วยอำนวยความสะดวกแก่ทั้งพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ รวมไปถึงเหล่าขาช้อปทั้งหลายได้เป็นอย่างดี ซึ่งแต่ละที่มีบริการแบบใดบ้าง มีการคิดค่าบริการอย่างไร เพื่อให้สามารถเลือกใช้ได้ถูกต้องและคุ้มค่า จึงอยากชวนมาศึกษาข้อมูล ทำความเข้าใจ เพื่อให้ทุกการส่งสินค้าจะได้ไม่ต้องกังวล สงสัยอีกต่อไป

บริษัทส่งสินค้า สำหรับพ่อค้าแม่ออนไลน์ และสายช้อป

1. ไปรษณีย์ไทย

หนึ่งในบริษัทขนส่งที่อยู่คู่คนไทยมายาวนาน นั่นก็คือ ไปรษณีย์ไทย จากเดิมที่ส่งจดหมาย พัสดุทั่วไปธรรมดา ปัจจุบันก็มีบริการหลากหลายรูปแบบมายิ่งขึ้น โดยมีทั้งการส่งพัสดุแบบลงทะเบียน ราคาเริ่มต้นที่ 16 บาท ส่วนแบบส่งด่วนหรือ EMS ที่ส่งถึงผู้รับภายใน 2 – 3 วัน ราคาเริ่มต้นที่ 32 บาท นอกจากนั้นยังมีบริการส่งแบบ eco – post ระยะเวลาจัดส่ง 3 – 5 วัน ราคาเริ่มต้นเพียง 20 บาท และบริการเก็บเงินปลายทาง หรือ COD คิดค่าธรรมเนียม 3 % ของมูลค่าสินค้า โดยผู้ขายจะได้รับเงินค่าสินค้าภายในเวลา 2 วันทำการ 

2. Kerry Express

เป็นอีกแบรนด์ขนส่งหน้าใหม่ที่มาแรงไม่เบาสำหรับ Kerry Express เป็นบริษัทที่ได้รับการเครมว่าส่งเร็วที่สุด โดยมีบริการส่งหลากหลาย ทั้งแบบทั่วไปที่หากเป็นพัสดุในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 30 บาท ส่วนต่างจังหวัดอยู่ที่ 50 บาท ส่งถึงมือผู้รับภายในเวลาประมาณ 2 วันทำการ นอกจากนั้นยังมีบริการ Bangkok Same Day ส่งเอกสาร พัสดุขนาดเล็กภายในกรุงเทพฯ ภายในวันเดียว รวมทั้งยังมีบริการแบบ Parcel Shops เป็นล็อกเกอร์ส่งเอกสารที่ให้บริการตามตึกสำนักงานขนาดใหญ่ และยังมีบริการเก็บเงินปลายทาง (COD) ซึ่งคิดค่าธรรมเนียม 3 % ของมูลค่าสินค้าเช่นเดียวกัน โดยจะโอนเงินให้ผู้ขายภายใน 3 วัน

3. Flash Express

นับเป็นคู่แข่งรายใหม่ที่ไม่ธรรมดา สำหรับ Flash Express ที่คิดค่าบริการแบบสุดคุ้มเริ่มต้นเพียง 25 บาท ราคาเดียวทั้งพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล รวมไปถึงต่างจังหวัด โดยมีขนาดไม่เกิน 280 เซนติเมตร  และน้ำหนักไม่เกิน 50 กิโลกรัม รับทั้งยังมีบริการไปรับสินค้าถึงหน้าบ้าน โดยไม่มีการเก็บค่าบริการเพิ่มเติม และยังมีบริการเก็บเงินปลายทาง (COD) ซึ่งคิดค่าธรรมเนียม 3 % ของมูลค่าสินค้าเช่นเดียวกัน โดยจะโอนเงินให้ผู้ขายภายใน 2 วันทำการ 

4. Best Express

นับเป็นบริษัทขนส่งน้องใหม่ที่เข้ามาแย่งส่วนแบ่งการตลาดด้านโลจิสติกส์ โดยคิดค่าบริการขนส่งในกรุงเทพฯ และปริมาณมณฑล เริ่มต้นที่ 30 บาท ส่วนต่างจังหวัดเริ่มต้นที่ 45 บาท น้ำหนักสูงสุดไม่เกิน 50 กิโลกรัม ขนาดไม่เกิน 150 เซนติเมตร นอกจากนั้นยังมีบริการเข้าไปรับพัสดุถึงบ้าน ไม่คิดค่าบริการเพิ่มเติม และยังไม่มียอดขั้นต่ำ และยังมีบริการเก็บเงินปลายทาง (COD) ซึ่งคิดค่าธรรมเนียม 3 % ของมูลค่าสินค้าเช่นเดียวกัน โดยจะโอนเงินให้ผู้ขายภายใน 1 วันทำการ 

5. SCG Express

อีกหนึ่งธุรกิจภายใต้แบรนด์ SCG ที่ให้บริการไม่ธรรมดา  มีสาขาครอบคลุมทั่วไทยกว่า 1,000 สาขา โดยคิดค่าบริการขนส่ง แบ่งออกเป็นโซนภาคเดียวกัน และขนส่งข้ามภูมิภาค ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 40 บาท ขนาดไม่เกิน 200 เซนติเมตร น้ำหนักไม่เกิน 50 กิโลกรัม นอกจากนั้นยังมีบริการตู้ล๊อคเกอร์อัจฉริยะ ตามสถานที่รถไฟฟ้า ห้างสรรพสินค้า มีบริการส่งพัสดุควบคุณอุณหภูมิ ค่าจัดส่งเริ่มต้นที่ 140 บาท นอกจากนั้นยังมีบริการเข้าไปรับพัสดุถึงบ้าน และยังมีบริการเก็บเงินปลายทาง (COD) ซึ่งคิดค่าธรรมเนียม 3 % ของมูลค่าสินค้าเช่นเดียวกัน มีค่าบริการขั้นต่ำ 15 บาท  โดยจะโอนเงินให้ผู้ขายภายใน 1 วันทำการ 

บริการที่หลากหลาย ทั้งชนิดของการขนส่ง และราคา คงทำให้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ รวมไปถึงเหล่านักช้อป ได้เลือกใช้บริการที่มีความคุ้มค่า ประหยัดค่าใช้จ่าย และได้บริการที่มีประสิทธิภาพตรงใจ อย่างไรก็ตามควรมีการบรรจุสินค้าให้มั่นคง ปลอดภัย ไม่เสียหายระหว่างทาง เพื่อป้องกันไม่ให้กระทบต่อความพึงพอใจของผู้รับสินค้า และไม่สร้างปัญหาแก่ผู้ขายด้วย

อ่านเพิ่มเติม: แนะ 5 เทคนิค ไลฟ์ขายของ ที่คนขี้อายก็ทำได้สบาย ๆ

เรื่องที่คล้ายกัน

Leave a Comment