แนะ 5 กลยุทธ์เอาชนะวิกฤติ หนุนธุรกิจให้อยู่รอด ที่ผู้ประกอบการควรรู้

by kanlongthun
กลยุทธ์เอาชนะวิกฤติ

แม้ว่าในปัจจุบันโอกาสในการก้าวมาเป็นผู้ประกอบการหรือการทำธุรกิจส่วนตัวจะง่ายยิ่งขึ้น จากการเติบโตของเทคโนโลยีและการเข้าสู่ยุคดิจิตอลอย่างเต็มตัว ซึ่งทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงทรัพยากรต่าง ๆ ได้ไม่ยุ่งยาก แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า ผู้เป็นเจ้าของธุรกิจทุกคนจะสามารถสร้างสรรค์และพัฒนาธุรกิจของตัวเองให้สร้างกำไรและอยู่รอดได้ โดยเฉพาะในยุคที่พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว หากผู้ประกอบการไม่สามารถปรับเปลี่ยนหรือรับมือได้ทัน ก็จะกลายเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการที่ปิดตัวเองลง การเอาชนะวิกฤติ หนุนธุรกิจให้อยู่รอดนั้น จึงต้องอาศัยกลยุทธ์ด้านต่าง ๆ เข้ามาเป็นตัวช่วย

ซึ่งผู้ประกอบการควรเรียนรู้และวางแผนรองรับ กับกลยุทธ์เอาชนะวิกฤติ ซึ่งจะต้องดำเนินการอย่างไรบ้างนั้น มาทำความเข้าใจไปพร้อม ๆ กัน 

1. สร้างฐานแฟน ขยายกลุ่มลูกค้าให้เติบโตอย่างมั่นคง 

แหล่งรายได้ที่สำคัญซึ่งจะหล่อเลี้ยงธุรกิจให้อยู่รอดและเติบโตต่อไปได้ ก็คือ ลูกค้า ธุรกิจที่มีลูกค้าขาประจำ และรายใหม่ ๆ มาเติมเต็มรายได้อย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง ถือเป็นจุดแข็ง ที่ช่วยทำให้มีทรัพยากรที่สามารถนำไปพัฒนา เพื่อขยายธุรกิจให้ยิ่งใหญ่ได้ การทำความรู้จักลูกค้าเป้าหมายอย่างลึกซึ้งเข้าถึงจิตใจ ทั้งในแง่ความต้องการในการแก้ปัญหา รวมไปถึงการมองหาทางเลือกใหม่ ๆ ที่จะสร้างความพึงพอใจแก่ลูกค้าจึงเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการควรทำและดำเนินการอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ทันต่อความเปลี่ยนแปลง 

2. ปรับปรุงพัฒนาสินค้าและบริการให้มีคุณภาพ ตอบโจทย์ลูกค้าอยู่เสมอ

แม้จะเป็นลูกค้าคนเดิม แต่เมื่อเวลาผ่านไป ลูกค้าที่เคยซื้อสินค้าหรือใช้บริการ ก็อาจจะมีความต้องการที่แตกต่างกันไปได้ ดังนั้น ธุรกิจจึงไม่ควรที่จะหยุดนิ่งในการพัฒนาหรือยึดมั่นกับความสำเร็จเดิม ๆ ที่เคยทำได้ เพราะนั่นอาจจะหมายถึงธุรกิจของคุณกำลังตกอยู่ในอันตราย หากคู่แข่งสามารถพัฒนาสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้ดีกว่าในราคาที่เหมาะสม การเรียนรู้ และวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่แตกต่าง และแก้ไขปัญหาเดิม ๆ ที่ผู้บริโภคต้องการหลีกหนีได้ จะทำให้ธุรกิจแตกต่างเหนือคู่แข่งอยู่เสมอ 

3. บริหารจัดการองค์กรและต้นทุนการผลิตการบริการ สร้างกระแสเงินสดให้หมุนเวียนต่อเนื่อง

การจัดการภายในบริษัทหรือธุรกิจ ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่มีความสำคัญไม่น้อย ทั้งในแง่ของบุคลากรที่ดี มีประสบการณ์และรักองค์กร ไม่ลาออกบ่อย จนธุรกิจขาดช่วง การบริหารต้นทุนการผลิต ทำบัญชี รายรับรายจ่าย จัดซื้อสิ่งของจำเป็นในราคาที่ไม่สม สอดคล้องต่อกระบวนการผลิต มีรายได้ทำให้เกิดกระแสเงินสดที่หมุนเวียนในธุรกิจได้อย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ จะทำให้ธุรกิจมีเสภียรภาพมั่นคง 

4. นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่มาปรับใช้

เพื่อลดภาระการทำงาน ประหยัดเวลา การทำนวัตกรรม เทคโนโลยี หรือเครื่องมือต่าง ๆ มาปรับใช้บ้างในส่วนที่มีความจำเป็น ก็จะช่วยทำให้สามารถลดต้นทุน สามารถเพิ่มศักยภาพในการผลิต และทำให้สินค้าหรือบริการนั้น ๆ มีคุณภาพ เกิดความรวดเร็ว สร้างความพึงพอใจต่อลูกค้า ผู้มาใช้บริการ ซึ่งช่วยส่งเสริมชื่อเสียงและภาพลักษณ์ขององค์กรให้ได้รับการยอมรับ และมีลูกค้าที่เหนียวแน่น ช่วยกันบอกต่อได้ 

5. ร่วมดูแลสังคม ชุมชน สิ่งแวดล้อม เพื่อการเติบโตไปด้วยกัน 

เพราะการมุ่งหวังแต่สร้างกำไร โดยไม่สนใจคนรอบข้าง ก็อาจจะไม่สามารถทำให้ธุรกิจอยู่รอดได้ โดยเฉพาะเมื่อธุรกิจเกิดวิกฤติต่าง ๆ เกิดขึ้น แรงสนับสนุนจากกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกลุ่มต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นลูกค้า ซัพพลายเออร์ ชุมชน สังคมโดยรอบบริษัท ก็จะมีอีกหนึ่งกำลังที่พร้อมจะช่วยเหลือ ทั้งในด้านการเผยแพร่ชื่อเสียง การปกป้อง และช่วยเป็นหูเป็นตาระวังภัย การวางแผนและดำเนินกิจการต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์แก่สังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม จึงเป็นอีกภารกิจที่ต้องดำเนินการอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีแก่ทุกคน 

เพราะความอยู่รอดของธุรกิจเป็นเรื่องที่สำคัญ การประคับประคองให้ก้าวผ่านช่วงเวลาแห่งความเลวร้ายจากวิกฤติจึงต้องอาศัยปัจจัยต่าง ๆ ดังที่ได้นำมาบอกเล่าแนะนำกัน ผู้ประกอบการ นักธุรกิจจึงต้องใส่ใจในการศึกษา เรียนรู้ และวางแผน รวมทั้งปรับตัวอย่างรวดเร็ว เพื่อให้ทุก ๆ ความเปลี่ยนแปลง เป็นเพียงแค่ลมที่พัดมาแล้วผ่านไป ไม่สามารถทำให้ธุรกิจโยกคลอน สั่นไหว หรือล้มคลืนได้ การมีแผนการรับมือที่ดี มีกลยุทธ์ธุรกิจที่เหมาะสม จึงเป็นอาวุธที่สำคัญต่อการรับมือและส่งเสริมให้ธุรกิจอยู่รอด 

อ่านเพิ่มเติม: สร้างทีมอย่างไรให้เวิร์ค

เรื่องที่คล้ายกัน

Leave a Comment