รวม 5 เทคนิค ซื้อประกันรถยนต์อย่างไร ให้คุ้มค่า ในราคาจับต้องได้

by kanlongthun
ซื้อประกันรถยนต์

สำหรับผู้ใช้รถยนต์ในการเดินทางเป็นประจำ ความปลอดภัย และความคุ้มครองกรณีเกิดเหตุไม่คาดฝัน ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุ รถโดนโจรกรรม เกิดไฟไหม้ หรือน้ำท่วม เพื่อลดความกังวลต่อผลกระทบที่จะเกิดขึ้นที่จะสร้างความเสียหายต่อรถยนต์ ทรัพย์สิน รวมไปถึงผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร และคู่กรณีหากมีเกิดการเฉี่ยวชนขึ้น การทำประกันรถยนต์จึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งที่จะช่วยบรรเทาความรุนแรงจากเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ทั้งนี้เพื่อให้เงินที่จ่ายไปเกิดความคุ้มค่า ได้รับความคุ้มครองในรูปแบบที่ต้องการ ผู้เป็นเจ้าของรถควรมีการศึกษาและทำความเข้าใจอย่างไรก่อนที่จะตัดสินใจซื้อประกันรถยนต์บ้าง

มาติดตามเทคนิคดี ๆ ที่จะช่วยเลือกซื้อประกันรถยนต์ที่ถูกใจให้คุณได้ มาเรียนรู้ไปด้วยกันเลย 

1. เลือกบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือ และมีการบริการที่ดี ที่คนส่วนใหญ่ยอมรับ

การทำประกับรถยนต์เป็นการซื้อบริการ เพื่อรับความคุ้มครองในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่สร้างความเสียหายต่อรถ ทรัพย์สิน และผู้ที่อยู่ภายในรถ ซึ่งแน่นอนว่าการจะเลือกประกันกับบริษัทใด ย่อมต้องมีการศึกษาข้อมูลความน่าเชื่อถือของบริษัท รวมไปถึงประวัติการให้บริการต่าง ๆ ซึ่งในปัจจุบันสามารถหาอ่านรีวิวจากผู้ที่เคยใช้บริการได้ผ่านทางอินเตอร์เน็ต หากมีการร้องเรียนในแบบเดิมซ้ำ ๆ หลาย ๆ กรณี อาจจะต้องพิจารณาว่าควรจะซื้อกับบริษัทนี้ดีไหม แต่หากมีรีวิวไปในเชิงบวก ก็ถือเป็นทางเลือกที่ดี 

2. เลือกซื้อผ่านช่องทางที่วางใจได้ ไม่โดนหลอก

ปัจจุบันการซื้อ ประกันรถยนต์มีให้เลือกหลายช่องทางมาก ๆ ทั้งการผ่านตัวแทนขายประกันรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบบริษัท ผ่านโบรกเกอร์ หรืออาจจะเป็นนายหน้าขายประกันที่ได้รับใบอนุญาต ซึ่งก่อนซื้อควรพิจารณาตรวจเช็คให้ถี่ถ้วนก่อนว่าตัวแทนขายนั้น มีคุณสมบัติเป็นนายหน้าที่แท้จริง ไม่ได้มีการแอบอ้าง หากเป็นไปได้ควรซื้อจากช่องทางที่มีความน่าเชื่อถือ มีการออกเอกสารจากทางบริษัทอย่างถูกต้อง นำส่งเงินตามระบบเรียบร้อย ไม่ต้องกังวลเรื่องการโดนโกง 

3. เลือกแผนประกันให้เหมาะสมกับระดับความคุ้มครองที่ต้องการ

สำหรับประกันรถยนต์นั้น มีแผนประกันในหลายรูปแบบตามความต้องการของผู้เป็นเจ้าของรถ ตั้งแต่ชั้น 1 ซึ่งได้รับความคุ้มครองทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุไม่ว่าจะมีคู่กรณี หรือไม่มี  มีความคุ้มครองต่อผู้ที่ขับขี่ ผู้โดยสารในรถ รวมไปถึงรถของคู่กรณี นอกจากนั้นรวมไปถึงการเกิดเหตุไฟไหม้ รถสูญหาย น้ำท่วม ส่วนประกันชั้น 2+  ชั้น 2  ชั้น 3 +  ชั้น 3 ก็จะมีระดับความคุ้มครองที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งผู้เป็นเจ้าของรถสามารถประเมินความเสี่ยง และเลือกซื้อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมกับตัวเอง 

4. เลือกทุนประกันที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายต่าง ๆ อย่างเหมาะสม

เงินทุนประกัน เป็นอีกหนึ่งส่วนที่มีความสำคัญไม่แพ้ปัจจัยอื่น ๆ เพราะจำนวนเงินที่จะได้รับการชดเชยจะแตกต่างกันไปตามระดับความคุ้มครอง และเงินเบี้ยประกันก็จะสูงต่ำลดลั่นกันไป แม้ว่าจะเป็นแผนประกันชนิดเดียวกัน แต่ต่างบริษัทกัน ระดับราคาก็อาจจะไม่เท่ากันได้ ดังนั้น เพื่อให้สอดคล้องต่อความต้องการ และงบประมาณที่มี ผู้เป็นเจ้าของรถควรเปรียบเทียบอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อ 

5. เลือกสถานบริการในการซ่อมที่ตอบโจทย์ 

หากมีการส่งรถเครม สถานบริการที่จะมาให้บริการ ไม่ว่าจะอู๋ของศูนย์บริการรถยนต์ หรือจะเป็นของบริษัทเอกชนทั่วไป ผู้ซื้อ ประกันรถยนต์ก็ต้องพิจารณาให้ดีว่าจะซ่อมกับศูนย์ไหน ที่สามารถไว้วางใจได้ว่า จะดูแลรถที่ได้รับความเสียหาย ให้กลับมาดีเหมือนเดิมอย่างที่ต้องการได้ สำหรับผู้ที่ไม่มีความรู้ความชำนาญในการตรวจเช็คสิ่งต่าง ๆ แนะนำว่าการซ่อมกับศูนย์ของรถยนต์แบรนด์นั้น ๆ จะน่าเชื่อถือว่า 

การซื้อ ประกันรถยนต์ แม้ดูเผิน ๆ อาจจะเหมือนการเสี่ยงดวง ที่อาจจะดีหรือไม่ดีก็ได้ แต่เราสามารถกลั่นกรองตรวจสอบพิจารณาอย่างรอบคอบ ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อประกันแบบใด กับบริษัทไหนได้ เพื่อให้สามารถมีความมั่นใจคลายความกังวลไปในระดับนึงว่า เมื่อเกิดเหตุต่าง ๆ ที่ไม่คาดคิด จะได้รับการบริการที่ดี มีการชดเชยค่าสินไหมต่าง ๆ อย่างยุติธรรม และเกิดความคุ้มค่าต่อเงินที่ต้องจ่ายไปในแต่ละปี

อ่านเพิ่มเติม: เขียนแผนธุรกิจ

เรื่องที่คล้ายกัน

Leave a Comment