รวม 5 ลักษณะนิสัย คนที่ไม่ควรยุ่งเกี่ยว แบบไหนที่ควรหนีให้ไกล

by kanlongthun
คนที่ไม่ควรยุ่งเกี่ยว

การทำงานในองค์กรต่าง ๆ ไม่ว่าจะของรัฐ หรือเอกชน จำเป็นต้องพบปะ พูดคุย มีการทำงานร่วมกันระหว่างผู้คนเป็นจำนวนมาก ซึ่งด้วยที่มาที่แตกต่างกัน จึงทำให้แต่ละคนมีนิสัยใจคอ และพฤติกรรมที่แตกต่างกันไปด้วย บางคนก็เหมาะแก่การคบหา แต่กับบางคนที่ไม่ควรยุ่งเกี่ยวเหมาะกับการหลีกหนีให้ไกล ไม่ควรเข้าไปเกี่ยวข้อง หรือถ้าเลี่ยงไม่ได้ก็ควรใกล้ชิดให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อป้องกันไม่เกิดปัญหา สร้างความเดือดร้อนกลับมาสู่ตัวเอง โดยเฉพาะการสร้างมลภาวะกับจิตใจที่แก้ไขค่อนข้างลำบาก โดยคนนิสัยแบบไหนบ้างที่ควรจะปฏิเสธ ไม่ควรไปสุงสิงคบหา

มาติดตามว่าคนที่ไม่ควรยุ่งเกี่ยวมีลักษณะอย่างไรบ้าง

1. ชอบซุบซิบนินทาว่าร้ายคนอื่นลับหลัง

การใช้เวลาไปกับการซุบซิบนินทาว่าร้ายคนอื่นลับหลัง ถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ผลาญเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ แถมยังสร้างความเดือดร้อนแก่ตนเอง และคนที่เกี่ยวข้องด้วย ผู้ที่มีนิสัยแบบนี้ จึงมักจะนำเรื่องแย่ ๆ มาให้ แม้ว่าบางคนจะมองว่าเป็นเรื่องสนุกสนานเพลิดเพลิน แต่หากมองให้ลึกซึ้งแล้ว การนินทาว่าร้ายผู้อื่น กลับไม่ได้สร้างประโยชน์แก่ใคร โดยเฉพาะเรื่องที่นำมาพูดนั้น เป็นการเสริมเติมแต่งจนห่างไกลความเป็นจริง 

2. ไม่ชอบให้ใครเด่นกว่าตัวเอง หาข้อติคนอื่นได้ตลอดเวลา

แม้ว่าในองค์กรต่าง มักจะมีการแข่งขัน แก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกัน ซึ่งก็อาจจะถือเป็นเรื่องธรรมดา แต่หากความเก่งนั้น สร้างประโยชน์ให้แก่หน่วยงาน ทำให้องค์กรเติบโต และเป็นการใช้ความสามารถที่มี โดยที่ไม่ทำให้ใครได้รับความเดือนร้อน ก็ไม่ใช่เรื่องน่าเกลียดอะไร แต่หากคนที่มีนิสัยไม่ชอบให้ใครเด่นกว่าตัวเอง เข้ามาพูดจาหาข้อติเตียนคนอื่น ๆ ไปทั่ว โดยที่คำติเหล่านี้ เป็นการบ่อนทำลายความมั่นใจ มากกว่าจะเป็นการสอนแนะนำเพื่อการปรับปรุงให้ดีขึ้น ก็เป็นสิ่งที่ผู้ใกล้ชิดคนประเภทนี้ควรหลีกหนีให้ไกล 

3. ใช้ตัวเองเป็นศูนย์กลาง ใครคิดต่างเป็นไม่ได้

ในแต่ละองค์กร มักจะมีคนแบบนี้อยู่บ้าง ที่มักจะยึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง ใครจะทำอะไร ต้องผ่านความคิดเห็นของตัวเองเป็นสำคัญ โดยไม่ฟังเสียง คำแนะนำ คำติติงจากคนอื่น ๆ เสมือนการให้คนอื่นหมุนโคจรรอบตัวเอง ยึดมั่นถือมั่น ในความคิด ความเห็น ความสามารถของตัวเองเป็นใหญ่ ซึ่งผู้ที่ทำงานร่วมกับคนแบบนี้ ก็อาจจะทำให้ลำบากใจ เพราะไม่สามารถทำอย่างอื่นได้เลย นอกจากปฏิบัติตาม 

4. โกหกเป็นนิสัย ไม่น่าเชื่อถือ

การพูดจากโกหก ปลิ้นปล้อน ไม่น่าเชื่อถือ นอกจากผิดศีลแล้ว ก็ยังสร้างความเดือนร้อนแก่บุคคลอื่น ๆ ได้ หากคำพูดที่สื่อสารออกไป สื่อความหมายที่ผิดเพี้ยน ทำให้ผู้ที่ได้ยินเกิดความเข้าใจผิด ก็อาจจะเป็นการเปลี่ยนเรื่องเล็ก ให้กลายเป็นเรื่องใหญ่โต เกินกว่าที่คาดคิดได้ ผู้ที่พูดจาโกหกจนเป็นนิสัย จึงเป็นอีกบุคคลที่ไม่ควรแก่การคบหาเป็นมิตร

5. ชอบจ้องจับผิดคนอื่น และตัดสินด้วยมุมมองของตัวเอง ไม่ฟังใคร 

นิสัยขี้ฟ้อง จ้องจับผิดคนอื่น รวมไปถึงการติดสินคนที่พบเจอด้วยมุมมองของตัวเองฝ่ายเดียว ก็อาจจะไม่ใช่บุคคลที่น่าคบหา เพราะจะนำพาเรื่องไม่ดีมาสู่ตัวเองได้ เพราะผู้ที่มีนิสัยแบบนี้ มักจะไม่ค่อยทำงานทำการ วัน ๆ เอาแต่จับตาว่าคนอื่นจะทำอะไรที่ไม่ดี เพื่อจะได้นำข้อมูลนี้ไปพูดจาเล่าให้คนอื่นฟ้อง หรือนำไปฟ้องร้องเรียนต่อหัวหน้า ผู้บังคับบัญชา ทำให้เสียการเสียงาน และทำให้องค์กรเกิดความวุ่นวาย ไม่เป็นอันทำงาน ต้องมานั่งแก้ไขปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้แทน 

บุคคลที่มีนิสัยทั้ง 5 นี้ ถือเป็นผู้ที่ไม่น่าคบค้าสมาคม หรือทำงานร่วมด้วย เพราะสิ่งที่เขาทำ จะนำแต่ความเดือดร้อนมาสู่ตัวเขาเอง รวมไปถึงทำให้บุคคลที่มีความใกล้ชิดพลอยได้รับความเสียหายไปด้วย การป้องกันที่ดี ก็คือ การหลีกเลี่ยง หากต้องทำงานด้วยก็ขอให้โฟกัสแต่เพียงตัวงาน ไม่ใช้ชีวิตส่วนตัวร่วมกับเขา เพื่อจะได้ไม่ต้องประสบกับปัญหาที่น่ารำคาญ ส่งผลเสียต่อสภาพจิตใจ และทำให้เกิดความเบื่อหน่าย ไม่มีความสุขได้

อ่านเพิ่มเติม: Social Listening

เรื่องที่คล้ายกัน

Leave a Comment