แนะ 5 วิธีดูแลตนเองจากโรคทรัพย์จาง ด้วยการสแกนสุขภาพการเงิน

by kanlongthun
โรคทรัพย์จาง

การเงิน ก็ไม่ต่างกับร่างกายมนุษย์เรา ที่ต้องหมั่นตรวจเช็คอย่างสม่ำเสมอ เพื่อหาจุดบกพร่องที่จะทำให้เกิดโรคต่าง ๆ ส่งผลกระทบต่อชีวิตของตัวเองได้ ซึ่งแน่นอนว่าย่อมมีหลาย ๆ คนที่ละเลย ไม่ว่าจะเป็นสุขภาพตัวเอง หรือสุขภาพการเงิน มุ่งแต่จะหาวิธีในการสร้างรายได้แต่เพียงอย่างเดียว จนอาจจะลืมอุดรอยรั่วจากการไม่มีเวลาในการบริหารการเงินของตัวเอง ทางที่ดี จึงควรจัดสรรเวลาเพื่อกลับมาทบทวนสแกนปัจจัยต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อการใช้จ่าย เพื่อที่จะได้หาวิธีรับมือ หากเกิดสภาวะการทำงานที่ผิดปกติไปจากเดิม จะได้รีบหาทางแก้ไขดูแล ซึ่งจะต้องเริ่มต้นจากอะไร

เรามีคำตอบมาให้กับ 5 วิธีสแกนสุขภาพการเงิน ดูแลตนเองจากโรคทรัพย์จาง มาทำความเข้าใจ และนำไปปรับใช้กับชีวิตของแต่ละคนกันได้เลย 

1. เช็คนิสัยการใช้จ่ายส่วนบุคคล

การมีรายรับ ไม่ได้สร้างปัญหาเท่ากับรายจ่าย ดังนั้น การสแกนสุขภาพการเงิน ควรจะเริ่มต้นด้วยการตรวจเช็คนิสัยการใช้จ่ายเงินของตัวเองเป็นสำคัญ โดยพิจารณาดูว่าส่วนใหญ่เราใช้เงินไปกับค่าใช้จ่ายส่วนใด สิ่งเหล่านั้นมีความจำเป็นต่อชีวิตมากน้อยขนาดไหน ตัดลดจำนวนลงได้หรือไม่ เมื่อมีรายรับเข้ามามีการจัดสรรเพื่อเป็นเงินออมก่อนจ่าย หรือจ่ายไปแล้วเหลือค่อยออม ไม่ค่อยได้ออมเพราะมีค่าใช้จ่ายเกิกว่าเงินที่หามาได้ พฤติกรรมหรือนิสัยการใช้เงินเหล่านี้ บ่งบอกเราได้เป็นอย่างดีว่ามีโอกาสเกิดโรคทรัพย์จางมากน้อยขนาดไหน 

2. สำรวจสภาพคล่องทางการเงิน

หลายคนที่ชอบบ่นว่าใช้เงินเดือนชนเดือน ชักหน้าไม่ถึงหลัง คงต้องมาสำรวจกันให้ดีว่า มีสภาพคล่องทางการเงินมากน้อยขนาดไหน โดยการนำรายได้จากทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นรายได้จากการทำงานประจำ การทำอาชีพเสริม เงินพิเศษต่าง ๆ เช่น ค่าโอที ค่าคอมมิชชั่น นำมารวมกัน แล้วลบด้วยรายจ่ายทั้งหมดที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือน เพียงเท่านี้ก็จะดูออกได้เลยว่า ตนเองมีสภาพคล่องมากน้อยขนาดไหน มีเงินเหลือพอที่จะเก็บออม เพื่อเป้าหมายต่าง ๆ หรือไม่ 

3. ตรวจสอบนิสัยการใช้จ่ายรายวัน

การจะบริหารการเงินของตัวเองได้ดีนั้น จำเป็นต้องอาศัยข้อมูลที่มีการจัดเก็บอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะการทำบัญชีรายรับ – รายจ่ายรายวัน เพื่อติดตามพฤติกรรมการใช้จ่ายในแต่ละหมวดหมู่ เพื่อนำมาใช้เป็นข้อมูลในการวางแผนทำงบประมาณการเงินให้สมดุลลงตัว โดยการตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น สิ้นเปลืองออกไป มีการจัดสรรเงินสำหรับการใช้จ่ายในแต่ละวัน และตัดเงินออมก่อนใช้จ่ายรายเดือนเข้าบัญชีอัตโนมัติ 

4. สแกนฐานะทางการเงิน ณ ปัจจุบัน

ความมั่นคงทางการเงินจะเกิดขึ้นไม่ได้ หากตัวเองไม่รู้ว่าสถานะปัจจุบันอยู่ในระดับไหน ซึ่งสามารถตรวจสอบได้โดยการนำมูลค่าทรัพย์สินทั้งหมดที่มี ไม่ว่าจะเป็นเงินเก็บในที่ต่าง ๆ ทั้งในธนาคาร กองทุนประเภทต่าง ๆ เงินเก็บสำรองฉุกเฉิน ทรัพย์สินที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ แล้วนำมาลบออกจากยอดหนี้สินคงเหลือทั้งหมด เพื่อให้ทราบว่าฐานะของตัวเองเป็นอย่างไร มีทรัพย์สินหรือหนี้สินมากกว่ากัน 

5. อัพเดทการบริหารความเสี่ยง รองรับสถานการณ์ฉุกเฉิน 

เพราะชีวิตต้องเผชิญกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดตลอดเวลา ซึ่งไม่รู้ว่าจะเกิดวิกฤติขึ้นเมื่อใด การบริหารความเสี่ยง จึงเป็นเรื่องที่สำคัญ การสแกนสุขภาพทางการเงิน จึงต้องตรวจสอบว่าได้มีการกระจายความเสี่ยงต่าง ๆ อย่างรอบด้านมากน้อยขนาดไหน เพื่อลดผลกระทบที่จะตามมา ไม่ว่าจะเป็นต่อตัวบุคคล ทรัพย์สิน หรือสุขภาพ ซึ่งจะช่วยให้คลายความกังวล ลดปัญหาต่าง ๆ ที่จะตามมา 

หากนำวิธีการสแกนสุขภาพการเงินเหล่านี้ มาลองตรวจสอบกับตัวเอง คงทำให้หลายคนตาสว่างขึ้นเลยว่า สถานะความมั่งคั่งในปัจจุบันอยู่ ณ จุดใด มีส่วนไหนที่เป็นข้อบกพร่อง ที่ต้องรีบดำเนินการแก้ไข และมีส่วนใดที่ควรจะต้องพัฒนา วางแผนมีสอดคล้องเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ และเป้าหมายความคาดหวังที่ต้องการ ซึ่งจะช่วยให้แต่ละคนสามารถก้าวไปถึงฝั่งฝัน ในการมีสุขภาพการเงินที่แข็งแรง ใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข ไร้ความกังวล

อ่านเพิ่มเติม: ซื้อประกันรถยนต์

เรื่องที่คล้ายกัน

Leave a Comment