
ปัญหาหนี้ กลายเป็นปัญหาหนักใจของคนไทยส่วนใหญ่ก็ว่าได้ เพราะน้อยคนนักที่จะไม่มีหนี้ติดตัว เพียงแต่จะสามารถบริหารจัดการชำระหนี้ได้จนหมดหรือไม่แค่นั้นเอง ซึ่งหากไม่สามารถปลดหนี้ได้ ก็ต้องแบกรับกับปัญหานี้ไว้ไปจนกว่าจะหมดลมหายใจ การกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข ก็คือการปลอดหนี้ แต่จะจัดการอย่างไร วิธีปลดหนี้ที่ก่อไว้แล้วให้หมดเร็ว ๆ เป็นสิ่งที่ต้องอาศัยทั้งความอดทน มุ่งมั่น และใช้เวลาในการสะสมเงิน เพื่อให้ทุกคนคลายความกังวลเหล่านี้ เราจึงมีคำแนะนำดีๆ มาฝาก
5 วิธีปลดหนี้คลี่คลายปัญหาคาใจ แบบใช้ได้จริง
1. ผูกสัญญาใจว่าจะใช้หนี้ที่มีอยู่ทั้งหมด
หนี้สินก้อนโต ที่เมื่อเทียบกับรายได้แล้ว หลายคนคงคิดว่าเมื่อไหร่จะชำระหมด ซึ่งอาจจะทำให้หมดความตั้งใจ และถอดใจไปก่อนได้ การผูกสัญญาใจไว้กับตัวเองว่าจะต้องใช้หนี้ทั้งหมดให้ได้ เป็นเสมือนการสร้างกำลังใจ เพื่อไม่ให้ย่อท้อต่อปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างทาง เพราะการปลดหนี้ที่มีจำนวนเยอะ จำเป็นต้องใช้เวลานานหลายปี และต้องแลกมากับการเสียสละ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้จ่ายต่าง ๆ ตัดการซื้อสิ่งของที่ไม่จำเป็นออกไป
2. หยุดสร้างหนี้ใหม่เพิ่ม
การปลดหนี้ไม่มีทางเป็นไปได้ หากคุณยังคงใช้จ่ายตามความพึงพอใจ โดยไม่ได้คิดไตร่ตรองถึงผลกระทบที่จะตามมาเช่นเดิม การหยุดสร้างหนี้เพิ่มที่แท้จริง โดยตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นต่อชีวิตออกไปให้หมด เพื่อสะสมเงินที่เหลือไว้ สำหรับนำมาใช้ชำระหนี้คงค้าง โดยควรวางแผนรายรับ รายจ่ายให้สมดุล และควรมีเงินเหลือมากพอที่จะชำระหนี้ให้ลดลงเร็ว ๆได้
3. ตรวจสอบหนี้เหลือคงค้างทั้งหมด
หากต้องการปลอดหนี้ สิ่งที่จะขาดไปไม่ได้ คือ การทราบข้อมูลว่าหนี้สินทั้งหมดที่มียอดรวมเท่าไหร่ เพื่อให้ทราบรายละเอียดว่าหนี้สินมาจากที่ใดบ้าง แต่ละที่มียอดเท่าไหร่ โดยส่วนใหญ่แล้วคนเป็นหนี้มักจะไม่กล้ารวมยอด เพราะกลัวทำใจไม่ได้ จึงเป็นไปได้ยากที่จะหาวิธีจัดการ หากปราศจากข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริง
4. หาวิธีหาเงินก้อนมาชำระหนี้
หนึ่งในวิธีที่จะสามารถปิดหนี้ได้รวดเร็ว ก็คือ การนำเงินที่ได้ในโอกาสพิเศษต่าง เช่น เงินโบนัสประจำปี เงินปันผล ค่าคอมมิสชั่น เงินจากการทำงานพิเศษต่าง ๆซึ่งเงินก้อนเหล่านี้ เหมาะอย่างยิ่งที่จะนำมาปิดหนี้ที่มียอดคงเหลือน้อยที่สุด และมีดอกเบี้ยสูง การปิดเจ้าหนี้ไป 1 ราย ก็จะช่วยสร้างกำลังใจให้มีพลังปลดหนี้เจ้าอื่น ๆ ต่อไปได้
5. เจรจาสถาบันการเงินเพื่อประนอมหนี้
อีกหนึ่งวิธีที่เหมาะสำหรับผู้ที่ส่งสัญญาณว่าจะผ่อนหนี้ไม่ไหว ก็คือการเข้าไปพูดคุยกับสถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้เพื่อขอประนอมหนี้ในรูปแบบต่าง ๆ ที่พอจะทำได้ เช่น ขอลดดอกเบี้ย ยืดระยะเวลาการชำระ หรืออาจจะขอชำระเฉพาะดอกเบี้ย เพื่อให้สามารถรักษาสภาพคล่องทางการเงินของตนเองไว้ได้
แม้ว่าการปลดหนี้อาจจะดูเป็นเรื่องยากกว่าการเบี้ยวหนี้ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่สามารถทำได้ หากมีความตั้งใจจริง วางแผนอย่างเป็นระบบ และดำเนินการตามแผนอย่างมีวินัย รวมทั้งได้รับความร่วมมือด้วยดีจากคนในครอบครัว เพื่อช่วยกันประหยัดค่าใช้จ่าย รวมไปถึงหารายได้เพิ่ม เป้าหมายของการมีชีวิตที่ปลอดหนี้ ก็คงไม่ใช่สิ่งที่ไกลเกินฝันอย่างแน่นอน
อ่านเพิ่มเติม: แนะ 4 ขั้นตอน เจาะกลุ่มเป้าหมายอย่างไร ให้ได้ลูกค้าตัวจริง